บ้านทรุดตัว-ยุบเป็นโพรง แก้ยังไงดี!!!!
คุณเคยสังเกตุบ้างหรือไม่ว่าบ้านที่เราพักอาศัยอยู่ทุกวันเกิดดินยุบจนเห็นโพรงใต้บ้าน มีรอยร้าวรอบตัวบ้าน พื้นรอบบ้านหรือพื้นที่จอดรถทรุดตัวแยกออกจากบ้าน นั่นคือสัญญาณเตือนว่าบ้านของคุณกำลังเกิดปัญหาการทรุดตัว แล้วบ้านทรุดตัวมีอันตรายต่อผู้พักอาศัยหรือไม่ จะต้องแก้ไขยังไง วันนี้มาดูสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาบ้านทรุดตัว บ้านเป็นโพรง ดินยุบรอบบ้านและแนวทางการแก้ปัญหาก่อนที่บ้านจะเสียหายทรุดตัวบานปลายจนเกินแก้ไข
- ปัญหาบ้านทรุดตัว
ปัญหาบ้านทรุดตัว มีสาเหตุจากหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นสภาพความอ่อนแข็งและหนาแน่นของเนื้อดินในแต่ละพื้นที่ที่มีการยุบตัวแตกต่างกันตามโครงสร้างและส่วนประกอบของที่ดิน เช่น ดินในกรุงเทพฯ มีลักษณะเป็นตะกอนดินเหนียวปากแม่น้ำทำให้มีความอ่อนนุ่มและทรุดตัวง่าย ที่ดินย่านชานเมืองมักเคยขุดหน้าดินไปขายเพื่อถมที่ เป็นสาเหตุทำให้ดินที่ถมใหม่ทรุดตัวง่ายกว่าพื้นดินธรรมชาติ หรือการสร้างหมู่บ้านบนพื้นที่ที่เคยเป็นบ่อปลามาก่อนก็เป็นสาเหตุให้บ้านเกิดทรุดตัวลงได้เช่นกันนอกจากนี้ในส่วนของโครงสร้างบ้านหากมีการต่อเติม ที่ขัดต่อโครงสร้างหลักของตัวบ้าน เช่น ห้องครัว โรงจอดรถ หรือส่วนต่อเติมของบ้านมีการเก็บสิ่งของที่มีน้ำหนักมากเกินไว้ในบ้านก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้บ้านเกิดทรุดตัวลงได้ รวมไปถึงการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่น การไม่ตรวจสอบชั้นดินให้ดีก่อนลงเสาเข็มทำให้ฐานรากของบ้านไม่แข็งแรงซึ่งทำให้บ้านทรุดเอียงง่ายขึ้น หรือการเจาะใช้น้ำบาดาลตามพื้นที่ต่างๆ ซึ่งก็ทำให้เกิดปัญหาการทรุดตัวของชั้นดินได้เช่นกัน
วิธีสังเกตสัญญาณบ้านทรุดตัว
- มีรอยร้าวขนาดใหญ่บนผนังบ้านหรือเสา มีรอยร้าวเป็นรอยยาวรอบตัวบ้าน หรือมีรอยร้าวในลักษณะบ้านทรุดไม่เท่ากันจนผนังแยกตัวออกจากกันในแนวทแยงมุม
- พื้นดินยุบตัวจนเห็นโพรงใต้บ้าน ดินทรุดแล้วไหลเข้าใต้ถุนบ้านหรือดินใต้บ้านทรุดจนเห็นเสาและท้องคานคอดินโผล่ออกมาจนเกิดเป็นโพรงใต้ถุนบ้าน แต่จะกระทบกับตัวบ้านมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับความมั่นคงของเสาเข็ม นอกจากนี้ดินที่ยุบหากปล่อยทิ้งไว้อาจกลายเป็นที่อยู่อาศัยของหนู งูหรือสัตว์มีพิษ แมลงมีพิษ ต่างๆ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อคนในบ้านได้
- โครงสร้างคานกับผนังแยกออกจากกันจนเห็นได้ชัด
- พื้นรอบบ้านหรือพื้นห้องที่ต่อเติมหรือพื้นทรุดตัวแยกออกจากตัวบ้าน
- ผนังบ้านหรือพื้นบ้านเอียงจนเห็นได้ชัด
- ท่อหรืองานระบบที่ใต้ถุนบ้านแยกขาดออกจากกัน
วิธีแก้ปัญหาบ้านทรุด
- ติดต่อ ผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างเฉพาะทาง หรือปรึกษาวิศวกรก่อสร้างให้หาสาเหตุและวิธีแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด ไม่ควรใช้ช่างก่อสร้างทั่วไปเพราะถ้าหากปัญหาเกิดจากโครงสร้างบ้านการแก้ไขปัญหาเฉพาะสิ่งที่เห็นด้วยตา ก็จะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ไม่ตรงจุด ซึ่งการแก้ไขจะต้องเริ่มต้นจากตัวโครงสร้าง โดยวิธีการซ่อมบ้านทรุดนั้นมีหลายแบบขึ้นอยู่กับลักษณะและความรุนแรงของปัญหาที่พบ
- ในกรณีที่ฐานรากเสียหายจนซ่อมไม่ได้หรือพื้นดินทรุดตัวมาก ควรใช้วิธีการดีดบ้านช่วยแก้ปัญหาบ้านทรุดโดยไม่ต้องทุบบ้านทิ้ง วิธีการดีดบ้านทำได้โดยการตัดบ้านออกจากฐานรากเดิมแล้วยกขึ้นจนลอยตัวเพื่อรื้อฐานรากแล้วทำฐานรากใหม่ก่อนที่จะประกบตัวบ้านให้ติดกับฐานราก แต่การดีดบ้านมีราคาสูงมากและทำได้ยาก จึงต้องดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างเฉพาะทาง
- ฉีดสารโพลียูรีเทนยกปรับระดับพื้นทรุด โดยไม่ต้องทุบพื้น การฉีดสารโพลียูรีเทนทำให้สามารถรองรับน้ำหนัก เสริมความแข็งแรงให้กับชั้นดิน และเพิ่มความสามารถในการรับน้ำหนักของดินภายใต้โครงสร้างเดิม สามารถรองรับน้ำหนักได้มากถึง 20 ตันต่อตารางเมตร และมีความสามารถในการยกน้ำหนักได้มากถึง 50 ตันต่อตารางเมตร โดยสารโพลียูรีเทนจะแทรกตัวไปตามช่องว่างของชั้นดิน รวมตัวกับ ดิน หิน ทราย เมื่อสารขยายตัวอย่างต่อเนื่องจะยกพื้นที่ทรุดขึ้น ทำให้พื้นที่ทรุดตัวหรือพื้นที่ต่างระดับสามารถยกได้เท่ากับของเดิมหรือตามความต้องการ
- ปัญหาดินรอบบ้านทรุดตัว
ปัญหานี้ไม่น่าหนักใจเท่ากับบ้านทรุดตัว สาเหตุมักเกิดจากการที่ถมดินแล้วปรับพื้นที่ใหม่โดยไม่ปล่อยเวลาให้ชั้นดินที่ถมใหม่เซ็ทตัวให้แน่นเสียก่อน แล้วรีบก่อสร้างเร็วเกินไปพอสร้างบ้านเสร็จไปแล้วสักระยะ 1-2 ปี เมื่อฝนตกหนักดินจึงทรุดตัวลงและไหลลงสู่ที่ต่ำเข้าไปในโพรงใต้ถุนบ้านหรือดินไหลตามน้ำออกไปยังพื้นที่ข้างเคียง นอกจากนี้การทรุดตัวของดินในบางกรณี อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของชั้นดินในบริเวณนั้นตามธรรมชาติก็ได้
วิธีแก้ปัญหาดินรอบบ้านทรุดตัว
- โดยการเสริมเติมดินหรือทรายเข้าไปให้เต็มแล้วฉีดน้ำไล่จนเนื้อดินแน่นในระดับหนึ่งแล้วสร้างกำแพงกันดินใต้ถุนบ้านโดยใช้แผ่นพื้นสำเร็จรูปมาเสียบรอบตัวบ้านให้ลึกที่สุดจนสามารถยึดเข้ากับคานคอดินหรือแนวเสาของตัวบ้านได้เพื่อกันไม่ให้ดินที่ถมใหม่ไหลเข้าใต้ถุนบ้าน หรือสร้างกำแพงกันดินตามแนวกำแพงรอบบริเวณบ้านเพื่อไม่ให้ดินไหลออกแล้วใช้แผ่นพื้นสำเร็จรูปมาเสียบรอบแนวกำแพงบ้านโดยเสียบให้ลึกที่สุดแล้วยึดติดกับฐานรากกำแพงให้แน่นหนา วิธีการดังกล่าวจะเป็นการแก้ปัญหาได้ในในระยะยาว